คำถามที่ถามบ่อย

App Assure มอบความช่วยเหลือจากระยะไกลให้กับลูกค้าที่มี แผน Microsoft 365 และ Windows ที่มีสิทธิ์ สำหรับสิทธิการใช้งานมากกว่า 150 สิทธิ์เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาความเข้ากันได้ของแอปที่ลูกค้าพบเมื่อย้ายไปยัง Windows 10/ 11 บนอุปกรณ์ Intel, AMD หรือ Azure Resource Manager, Microsoft 365 Apps for enterprise หรือเมื่อปรับใช้ Microsoft Edge ใหม่ Azure หรือ Windows 365 คลาวด์พีซี

มุมมองที่มีต่อความเข้ากันได้ของแอปและความไม่รู้ที่เกี่ยวข้องกับการระบุปัญหา เป็นอุปสรรคที่แท้จริงสำหรับลูกค้าที่กังวลเรื่องนี้ โปรแกรมนี้นำความมั่นใจกลับคืนมา และสำหรับแอปชุดเล็กๆ ที่มีปัญหา โปรแกรมนี้จะเรียก Microsoft ให้มาช่วยปรับแก้ได้โดยตรง

เช่นเดียวกับข้อเสนอ FastTrack ทั้งหมด เราขอเสนอ App Assure โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเมื่อมีการสมัครใช้งานที่มีสิทธิ์ (มากกว่า 150 สิทธิ์)

จริง คำกล่าวอ้างเหล่านี้เป็นความจริง เราสามารถส่งมอบโปรแกรมนี้ได้เนื่องจากมีแอปจำนวนน้อยมากที่พบปัญหาความเข้ากันได้ เราสามารถและเรามุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือลูกค้าแก้ไขปัญหาดังกล่าว แต่ขั้นตอนที่เราได้ดำเนินการกับ Windows 10 และ Windows 11 ไปแล้ว ช่วยให้มั่นใจได้ว่าอินสแตนซ์ที่แท้จริงของปัญหาความเข้ากันได้ของแอปมีจำนวนน้อยมาก

อังกฤษ, ญี่ปุ่น, จีนตัวย่อ, จีนตัวเต็ม, เยอรมัน, สเปน, เกาหลี, ฝรั่งเศส, โปรตุเกส (บราซิล) และอิตาลี

เราขอเสนอ App Assure โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับลูกค้าที่ใช้ Windows 10/11 Enterprise, Windows 10/11 Pro และ Windows 10/11 Education ที่มีการสมัครใช้งานที่มีสิทธิ์ (มากกว่า 150 สิทธิ์) ลูกค้าภาคธุรกิจ ภาคการศึกษา และภาครัฐที่มีสิทธิการใช้งาน Microsoft 365 E3, E5, A3 หรือ A5 สิทธิการใช้งาน Windows 10/11 E3, E5, A3 หรือ A5 หรือ Windows 10/11 Enterprise ที่มีการอนุญาตให้ใช้สิทธิ์ Software Assurance ในการสมัครใช้งานของตนอย่างน้อย 150 สิทธิ์ หรือ ISV ที่มีการจัดตั้งแอปเชิงพาณิชย์สำหรับ Windows 10/11 จะมีสิทธิ์ส่งคำขอความช่วยเหลือ ลูกค้าและ ISV ต้องกำหนดเป้าหมายเป็น Windows 10/11 และ Microsoft 365 Apps for enterprise หรือ Office เวอร์ชัน Perpetual License ที่ปัจจุบันอยู่ภายในระยะเวลาการให้บริการที่เกี่ยวข้องของตน (รวมถึงสาขาที่ให้บริการระยะยาว)

ไม่มี การมีสิทธิ์จะขึ้นอยู่กับสิทธิการใช้งาน Windows 10 และ 11 แต่ถ้าเรากำลังจะช่วยแก้ไขปัญหาความเข้ากันได้กับ Microsoft 365 Apps for enterprise ที่เกิดขึ้นจากการย้ายไป Windows 10/11 หรือเมื่ออัปเดต Microsoft 365 แอปต้องเป็นเวอร์ชันที่สนับสนุนของ Microsoft 365 Apps for enterprise หรือ Office แบบ Perpetual License ในการสนับสนุนหลักตามปกติ

การมีสิทธิ์ต้องมีสิทธิการใช้งานอย่างน้อย 150 สิทธิ์ของโปรแกรมต่อไปนี้:

• Windows 10/11 E3 หรือ E5
• Windows 10/11 Education A3 หรือ A5
• Windows 10/11 Enterprise ที่มี Software Assurance
• Windows 10/11 Pro
• Microsoft 365 E3 หรือ E5
• Microsoft 365 Education A3 หรือ A5

ใช่ App Assure พร้อมใช้งานสำหรับลูกค้าภาครัฐ หน่วยงานส่วนกลาง และกระทรวงกลาโหม (DoD) ข้อกำหนดและกระบวนการในการมีส่วนร่วมยังคงเหมือนกับ App Assure ลูกค้าต้อง ส่งคำขอความช่วยเหลือ

App Assure รองรับช่องทางการให้บริการระยะยาว (LTSC) ของ Microsoft 365 Apps for enterprise, Office 2016, Office 2019 และ Office ขณะมีการสนับสนุนหลักตามปกติใน Windows 10 หรือ Windows 11

Microsoft Trust Center เป็นแหล่งข้อมูลครบวงจรของคุณสำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับความปลอดภัย ความเป็นส่วนตัว การปฏิบัติตามนโยบาย และความโปร่งใส ไปที่ศูนย์ความเชื่อถือ

การสนับสนุนต่อไปนี้พร้อมให้บริการสำหรับแอปสายงานธุรกิจที่พัฒนาโดยลูกค้าและแอปที่พัฒนาโดย ISV

สำหรับแอปสายงานธุรกิจที่พัฒนาโดยลูกค้า:

• การวินิจฉัยแอปเพื่อระบุสาเหตุหลักและแก้ไขแอป หากมีโค้ดต้นฉบับของลูกค้า วิศวกรของ Microsoft จะทำงานร่วมกับผู้พัฒนาแอปและแนะนำการเปลี่ยนแปลงโค้ดสำหรับแอป ลูกค้ามีหน้าที่รับผิดชอบในการนำคำแนะนำไปใช้ในโค้ดต้นฉบับของตนเอง
• ทำการ Shim และทำแพคเกจแอปเพื่อปรับแก้ปัญหาความเข้ากันได้
• การแก้ปัญหาการถดถอยของ Windows 10 และ Windows 11 ที่ส่งผลต่อความเข้ากันได้ของแอป

สำหรับแอป ISV:

• การวินิจฉัยแอปเพื่อระบุสาเหตุหลักและแก้ไขสำหรับแอป และการเป็นพันธมิตรกับ ISV เพื่อปรับแก้แอปของตน
• การแก้ปัญหาการถดถอยของ Windows 10 และ Windows 11 ที่ส่งผลต่อความเข้ากันได้ของแอป
• มีส่วนร่วมกับ ISV เพื่อช่วยให้พวกเขาปรับตัวเข้ากับ Windows 10 และได้รับคำชี้แจงการสนับสนุน Windows 10

ใช่ Add-in ของ ISV สำหรับ Microsoft 365 อยู่ในขอบเขตและสนับสนุนโดย App Assure

ไม่ ไม่มีข้อจำกัดด้านจำนวนแอปที่สามารถส่งได้ แต่เราขอแนะนำให้คุณจัดลำดับความสำคัญของแอปหลักที่คุณจะโฟกัสก่อน

ไม่มีข้อจำกัดในเรื่องชนิดแพคเกจสำหรับ App Assure

ไม่ ทีม App Assure จะปรับแพคเกจแอปใหม่เฉพาะแอปที่ต้องมีการแก้ไขในครั้งแรกสำหรับ Windows 10 หรือ Windows 11 เท่านั้น เราสามารถแนะนำลูกค้าให้กับคู่ค้าของ Microsoft หลายรายที่มีคุณสมบัติตามที่กำหนดซึ่งเสนอบริการนี้ได้

เมื่อเราปรับแก้แอปของลูกค้า เราสามารถปรับแพคเกจแอปใหม่ในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งต่อไปนี้: APPX, App-V, MSI, EXE และ MSIX (ถ้ามี)

ลูกค้าต้องกำหนดเป้าหมายเป็น Windows 10 หรือ Windows 11 เวอร์ชันที่อยู่ภายในระยะเวลาการให้บริการ รับข้อมูลรุ่น Windows 11

ชนิดความพร้อมใช้งานของแอปต่อไปนี้ไม่ได้รับการรองรับ:

• การจัดทำรายการและการทดสอบแอปเพื่อกำหนดสิ่งที่ใช้ได้และใช้ไม่ได้ใน Windows 10 หรือ Windows 11
• การวิจัยแอป ISV สำหรับคำชี้แจงการสนับสนุนและความเข้ากันได้ของ Windows 10 หรือ Windows 11
• การเปลี่ยนระดับรหัสในแอป (แต่เราสามารถให้คำแนะนำแก่นักพัฒนาได้หากมีโค้ดต้นฉบับและทรัพยากร)
• แม้ว่าแอป AndroidTM บน Windows 11 จะพร้อมใช้งานสำหรับ Windows Insider แต่ App Assure ยังไม่รองรับแอปพลิเคชันหรืออุปกรณ์ AndroidTM รวมถึงอุปกรณ์ Surface Duo ในขณะนี้

Add-in ของ Microsoft 365 และแมโคร VBA อยู่ในขอบเขตสำหรับ App Assure

ISV สามารถส่งคำขอความช่วยเหลือได้โดยการลงชื่อเข้าใช้ FastTrack โดยการเลือกขอรับบริการ แล้วเลือกขอรับบริการแอปพลิเคชันและการแก้ไขบนไทล์ App Assure

Desktop Analytics คือบริการระบบ Cloud ที่รวมเข้ากับตัวจัดการการกำหนดค่าเพื่อจัดหาระบบอัจฉริยะสำหรับการตัดสินใจโดยใช้ข้อมูล เกี่ยวกับความพร้อมในการอัปเดตไคลเอ็นต์ Windows ของคุณ โดยรวมข้อมูลจากองค์กรของคุณเข้ากับข้อมูลที่รวบรวมจากอุปกรณ์นับล้านซึ่งเชื่อมต่อกับบริการ Microsoft Cloud

 Microsoft Security Update Validation Program (SUVP) ให้การเข้าถึงการปรับปรุงความปลอดภัยของ Microsoft ได้ถึงสามสัปดาห์ล่วงหน้าก่อนการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ เพื่อการทดสอบความสามารถในการทำงานร่วมกันและการตรวจสอบความถูกต้อง

ใช่ บริการ App Assure จะให้ความช่วยเหลือแก่ ISV ที่พบปัญหาความเข้ากันได้กับ Windows 10 และ Windows 11 และ Microsoft 365 Apps for enterprise รวมถึงการเปิดตัวรุ่นแรกๆ ที่พัฒนาขึ้นสำหรับ Windows 10 และ Windows 11

ไม่มีการจำกัดจำนวนแอปสำหรับ App Assure

เพื่อสนับสนุนบริการความพร้อมใช้งานแอปที่ไม่มีค่าใช้จ่าย บริการ App Assure จะใช้วิธีใดวิธีหนึ่งหรือใช้หลายวิธีต่อไปนี้รวมกันสำหรับการวินิจฉัยและการแก้ไขแอป:

1. Microsoft สนับสนุนลูกค้าจากระยะไกลเพื่อช่วยปรับใช้เครื่องมือวินิจฉัยและเครื่องมือแก้ไขปัญหาเพื่อรวบรวมบันทึกข้อผิดพลาดของแอป ในทำนองเดียวกับกับการสนับสนุนทั่วไป Microsoft จะวิเคราะห์ผลลัพธ์และทำการเปลี่ยนแปลงที่แนะนำเพื่อปรับแก้แอป
2. ลูกค้าแชร์ตัวติดตั้งแอปกับ Microsoft Microsoft ปรับใช้ตัวติดตั้งในสภาพแวดล้อมของแล็บ Microsoft ที่เราได้ปรับใช้เครื่องมือวินิจฉัยและเครื่องมือการแก้ไขของเราแล้ว
3. ลูกค้าให้การเข้าถึง VPN แก่วิศวกรของ Microsoft สำหรับสภาพแวดล้อมการทดสอบ Microsoft จะปรับใช้เครื่องมือวินิจฉัยและเครื่องมือการแก้ไขของเราและดำเนินงานปรับแก้ภายในสภาพแวดล้อมของลูกค้า

เมื่อลูกค้าส่งคำขอความช่วยเหลือแล้ว App Assure Manager จะติดต่อกับลูกค้าภายใน 24 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม เวลาในการวินิจฉัยและการแก้ไขแอปจะแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ โดยขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ รวมถึง:

• ความซับซ้อนของปัญหา
• การตอบสนองของ ISV
• ความพร้อมของลูกค้าในการติดต่อกับ Microsoft เพื่อให้รายละเอียดแอป
• รูปแบบที่การดำเนินงานแก้ไขเสร็จสิ้น (VPN หรือแล็บ Microsoft)
   

เราจะตัดสินใจว่าเหมาะหรือไม่ที่จะกำหนดข้อตกลงระดับการให้บริการและจะแจ้งเวลาตอบสนองโดยประมาณเมื่อเรามีข้อมูลเพิ่มเติมจากการติดต่อลูกค้า

ทีมบริการ App Assure ให้การสนับสนุนและสมาชิกทีมหลายระดับและตั้งอยู่ทั่วโลกเพื่อสนับสนุนแต่ละภูมิภาค ทีมให้การสนับสนุนระหว่างเวลาทำการท้องถิ่นตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันศุกร์

App Assure Manager คือแหล่งข้อมูล FastTrack ที่กำหนดให้กับบัญชีหนึ่ง พวกเขาเป็นเจ้าของความสัมพันธ์กับลูกค้าที่ส่งคำขอการแก้ไขแอป และพวกเขาช่วยเหลือในการค้นหาทรัพยากรวิศวกรรมที่เหมาะสมเพื่อแก้ไขปัญหาความเข้ากันได้ของแอป ความสัมพันธ์นี้อาจขยายหลายคำขอไปยังแอปหลายแอป และมีส่วนร่วมกับกลุ่มวิศวกรรมหลายกลุ่ม จุดประสงค์คือเพื่อมอบประสบการณ์ที่สะดวกสบายโดยที่ลูกค้าไม่จำเป็นต้องอธิบายสถานการณ์ในเส้นทางการอัปเกรด เพื่อแก้ไขปัญหาความเข้ากันได้ของแอป และเพื่อเริ่มนำ Windows 10, Windows 11 และ Microsoft 365 Apps for enterprise ไปใช้

โดยทั่วไปปัญหาความเข้ากันได้ของแอปจะได้รับการแก้ไขผ่านกระบวนการวินิจฉัยสาเหตุหลักและระบุขั้นตอนเพื่อปรับแก้ไข ชนิดการแก้ปัญหาที่พบบ่อยที่สุดคือ:

• การอัปเดตแอป ISV ให้เป็นแอปเวอร์ชันที่รองรับ

• การนำโปรแกรมแก้ไขด่วนที่มีให้บริการโดยเปิดเผยมาใช้

• โค้ดของแอปมีการเปลี่ยนแปลง

• การ Shim

• การแก้ไขบักระบบปฏิบัติการ Windows

Shim จัดให้มีพร็อกซีในการส่งมอบฟังก์ชันที่จำเป็นต่อการแก้ไขพฤติกรรมของซอฟต์แวร์แบบดั้งเดิม ทำให้เกิดการเปลี่ยนวิธีที่แอปโต้ตอบกับระบบปฏิบัติการ ไม่ใช่การเปลี่ยนตัวซอฟต์แวร์แอปเอง จากนั้น Shim จะเผยแพร่ไปยังไลบรารีส่วนกลางที่ซึ่งไคลเอ็นต์แอปทั้งหมดสามารถเข้าถึงเพื่อแก้ไขปัญหาได้

ต่อไปนี้คืออุปกรณ์บางส่วนที่เราสนับสนุน (OEM จะยังคงประกาศเกี่ยวกับอุปกรณ์ Azure Resource Manager ใหม่ต่อไป): Surface Pro X, Samsung Galaxy Book S, Samsung Galaxy Book2, Asus NovoGo, HP Envy X2, Lenovo Flex 5G, Lenovo Yoga C630 WOS และ Lenovo Miix 630 เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการจัดการความเข้ากันได้ของแอป Surface Pro X

แอปที่ต้องใช้โปรแกรมควบคุมซอฟต์แวร์ที่ไม่เข้ากันใน Resource Manager การจำลอง 64 บิต (x64) พร้อมใช้งานบน Windows 11 บนอุปกรณ์ Resource Manager เท่านั้น

การจำลอง 64 บิต (x64) พร้อมใช้งานบน Windows 11 บนอุปกรณ์ Resource Manager เท่านั้น